เมนู

เถโร อาห ‘‘เตสํ โก โทโส’’ติ? ‘‘ราคจริโต, ภนฺเต นาคเสน, ราควเสน มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, โทสจริโต, ภนฺเต , โทสวเสน มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, มูฬฺโห โมหวเสน มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, ภีรุโก ภยวเสน มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, อามิสครุโก อามิสเหตุ มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, อิตฺถี ปญฺญาย อิตฺตรตาย มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, โสณฺฑิโก สุราโลลตาย มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, ปณฺฑโก อเนกํสิกตาย มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, ทารโก จปลตาย มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติฯ ภวตีห –

‘‘‘รตฺโต ทุฏฺโฐ จ มูฬฺโห จ, ภีรุ อามิสครุโก [อามิสจกฺขุโก (สี. ปี.)];

อิตฺถี โสณฺโฑ ปณฺฑโก จ, นวโม ภวติ ทารโกฯ

‘‘นเวเต ปุคฺคลา โลเก, อิตฺตรา จลิตา จลา;

เอเตหิ มนฺติตํ คุยฺหํ, ขิปฺปํ ภวติ ปากฏ’’’นฺติฯ

นว คุยฺหมนฺตวิธํสกา ปุคฺคลาฯ

อฏฺฐ ปญฺญาปฏิลาภการณํ

‘‘ภนฺเต นาคเสน, อฏฺฐหิ การเณหิ พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติฯ กตเมหิ อฏฺฐหิ? วยปริณาเมน พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, ยสปริณาเมน พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, ปริปุจฺฉาย พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, ติตฺถสํวาเสน พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, โยนิโส มนสิกาเรน พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, สากจฺฉาย พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, สฺเนหูปเสวเนน พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, ปติรูปเทสวาเสน พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติฯ ภวตีห –

‘‘‘วเยน ยสปุจฺฉาหิ, ติตฺถวาเสน โยนิโส;

สากจฺฉา สฺเนหสํเสวา, ปติรูปวเสน จฯ

‘‘เอตานิ อฏฺฐ ฐานานิ, พุทฺธิวิสทการณา;

เยสํ เอตานิ สมฺโภนฺติ, เตสํ พุทฺธิ ปภิชฺชตี’’’ติฯ

อฏฺฐ ปญฺญาปฏิลาภการณานิฯ

อาจริยคุณํ

‘‘ภนฺเต นาคเสน, อยํ ภูมิภาโค อฏฺฐ มนฺตโทสวิวชฺชิโต, อหญฺจ โลเก ปรโม มนฺติสหาโย [มนฺตสหาโย (สี.)], คุยฺหมนุรกฺขี จาหํ ยาวาหํ ชีวิสฺสามิ ตาว คุยฺหมนุรกฺขิสฺสามิ, อฏฺฐหิ จ เม การเณหิ พุทฺธิ ปริณามํ คตา, ทุลฺลโภ เอตรหิ มาทิโส อนฺเตวาสี, สมฺมา ปฏิปนฺเน อนฺเตวาสิเก เย อาจริยานํ ปญฺจวีสติ อาจริยคุณา, เตหิ คุเณหิ อาจริเยน สมฺมา ปฏิปชฺชิตพฺพํฯ กตเม ปญฺจวีสติ คุณา?

‘‘อิธ, ภนฺเต นาคเสน, อาจริเยน อนฺเตวาสิมฺหิ สตตํ สมิตํ อารกฺขา อุปฏฺฐเปตพฺพา, อเสวนเสวนา ชานิตพฺพา, ปมตฺตาปฺปมตฺตา ชานิตพฺพา, เสยฺยวกาโส ชานิตพฺโพ, เคลญฺญํ ชานิตพฺพํ, โภชนสฺส [โภชนียํ (สฺยา.)] ลทฺธาลทฺธํ ชานิตพฺพํ, วิเสโส ชานิตพฺโพ, ปตฺตคตํ สํวิภชิตพฺพํ, อสฺสาสิตพฺโพ ‘มา ภายิ, อตฺโถ เต อภิกฺกมตี’ติ, ‘อิมินา ปุคฺคเลน ปฏิจรตี’ติ [ปฏิจราหีติ (ก.)] ปฏิจาโร ชานิตพฺโพ, คาเม ปฏิจาโร ชานิตพฺโพ, วิหาเร ปฏิจาโร ชานิตพฺโพ, น เตน หาโส ทโว กาตพฺโพ [น เตน สห สลฺลาโป กาตพฺโพ (สี. ปี.)], เตน สห อาลาโป กาตพฺโพ, ฉิทฺทํ ทิสฺวา อธิวาเสตพฺพํ, สกฺกจฺจการินา ภวิตพฺพํ, อขณฺฑการินา ภวิตพฺพํ, อรหสฺสการินา ภวิตพฺพํ, นิรวเสสการินา ภวิตพฺพํ, ‘ชเนมิมํ [ชาเนมิมํ (สฺยา.)] สิปฺเปสู’ติ ชนกจิตฺตํ อุปฏฺฐเปตพฺพํ, ‘กถํ อยํ น ปริหาเยยฺยา’ติ วฑฺฒิจิตฺตํ อุปฏฺฐเปตพฺพํ, ‘พลวํ อิมํ กโรมิ สิกฺขาพเลนา’ติ จิตฺตํ อุปฏฺฐเปตพฺพํ, เมตฺตจิตฺตํ อุปฏฺฐเปตพฺพํ, อาปทาสุ น วิชหิตพฺพํ, กรณีเย นปฺปมชฺชิตพฺพํ, ขลิเต ธมฺเมน ปคฺคเหตพฺโพติฯ อิเม โข, ภนฺเต, ปญฺจวีสติ อาจริยสฺส อาจริยคุณา, เตหิ คุเณหิ มยิ สมฺมา ปฏิปชฺชสฺสุ, สํสโย เม, ภนฺเต, อุปฺปนฺโน, อตฺถิ เมณฺฑกปญฺหา ชินภาสิตา , อนาคเต อทฺธาเน ตตฺถ วิคฺคโห อุปฺปชฺชิสฺสติ, อนาคเต จ อทฺธาเน ทุลฺลภา ภวิสฺสนฺติ ตุมฺหาทิสา พุทฺธิมนฺโต, เตสุ เม ปญฺเหสุ จกฺขุํ เทหิ ปรวาทานํ นิคฺคหายา’’ติฯ